วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2568

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จัดโครงการ “ปันน้ำใจให้การศึกษา” มอบทุนการศึกษาแก่น้องฯคนพิการ บุตรของคนพิการ รวมถึงเยาวชนที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ ประจำปีการศึกษา 2567

 สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จัดโครงการ “ปันน้ำใจให้การศึกษา” มอบทุนการศึกษาแก่น้องฯคนพิการ บุตรของคนพิการ รวมถึงเยาวชนที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์  ประจำปีการศึกษา 2567  ณ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์




ร้อยตำรวจโท ดร มนัส โนนุช  ประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย  ในพระบรมราชูปถัมภ์  กล่าวว่า “การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศเพราะถ้าเด็กเยาวชนคนรุ่นใหม่ของไทยได้รับการศึกษาที่ดีก็จะสามารถพัฒนาตนเองดูแลครอบครัวมีอาชีพที่มั่นคง เพราะจะทำให้ประเทศชาติเข็มแข็งด้วยการมอบทุนการศึกษาครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และผู้มีจิตอันเป็นกุศล สละทุนทรัพย์เพื่อเด็กเยาวชนคนไทยให้มีการพัฒนาที่ดีอันจะนำมาซึ่งความสุขของคนไทย”



          คุณตุ้มทอง มุสิกรัตน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เผยว่าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ทำหน้าที่ดังคำที่กล่าว “ช่วยราษฎร์  เสริมรัฐ ยืนหยัดยุติธรรม” นั้นหมายความว่าสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะให้ความสำคัญอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษานั้นเป็นสิ่งสำคัญ กรณีคนพิการและบุตรของคนพิการ ยิ่งต้องได้รับการสนับสนุนมากฯ  เพราะจะได้นำความรู้ไปประกอบอาชีพที่ยั่งยืน เพื่อไม่ให้ครอบครัวเป็นปัญหาของสังคม สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีความความยินดีอย่างยิ่งกับโครงการ “ปันน้ำใจให้การศึกษา” ขอให้น้องๆที่ได้รับทุนตั้งใจเรียนเพื่ออนาคตที่ดีของตนเองและครอบครัว




          คุณธิดารักษ์  สัจจพงษ์  เลขาธิการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์  กล่าวสรุปว่า “โครงการปันน้ำใจให้การศึกษา” ในการมอบทุนครั้งนี้  ประกอบพิธีมอบทุน ณ ตึกนวมหาราช  แยกตึกชัย  ถนนราชวิถี  กรุงเทพฯ ในวันที่  30  มกราคม  2568  เวลา 10.00 น. มอบทุนการศึกษาให้แก่คนพิการ และบุตรของคนพิการ จำนวน 144 ทุน ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 2,900,000.- บาท (สองล้านเก้าแสนบาทถ้วน) ในนามสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ต้องขอกราบขอบพระคุณแทนคนพิการ และบุตรของคนพิการ รวมถึงเด็กเยาวชนที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ด้วย



จังหวัดปัตตานี จัดงานเทศกาลอาหารพื้นถิ่นสุดอลังการแห่งปี“ฉ่ำ ฟู้ดติวัล – Charm Foodtival 2025” กระตุ้นการท่องเที่ยวคึกคัก

จังหวัดปัตตานี จัดงานเทศกาลอาหารพื้นถิ่นสุดอลังการแห่งปี“ฉ่ำ ฟู้ดติวัล – Charm Foodtival 2025” กระตุ้นการท่องเที่ยวคึกคัก




อิ่มเอมกันไปตลอด
3 วัน 2 คืน ในงานเทศกาลอาหารพื้นถิ่นสุดอลังการแห่งปีฉ่ำ ฟู้ดติวัล – Charm Foodtival 2025” โครงการส่งเสริมมหกรรมท่องเที่ยววิถีประสบการณ์สัมผัสมุมมองใหม่ (Pattani Experience) จัดโดย สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปัตตานี ร่วมกับ เทศบาลเมืองตะลุบัน และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง กระตุ้นการท่องเที่ยวชายแดนใต้ โดยในงานมีนักท่องเที่ยวร่วมงานคึกคัก ณ บริเวณหาดวาสุกรี ตำบลตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี

             นายชูชีพ ธรรมเพชร  รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เผยว่าอำเภอสายบุรี ถือเป็นอำเภอเก่าแก่ของจังหวัดปัตตานี มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญมากมายทั้งแหล่งสถาปัตยกรรม และ                  เมืองโบราณ  อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติทั้งชายหาดที่สวยงาม อย่างหาดวาสุกรี อีกทั้ง ยังมีความชึ้นชื่อในเรื่องของอาหารพิ้นถิ่นที่มีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเล อาหารพื้นบ้านต่าง ๆ ที่เป็นที่ดึงดูดให้กับนักท่องเที่ยว                  มาลิ้มลอง เพื่อส่งเสริมประชาสัมพันธ์และยกระดับกิจกรรมการท่องเที่ยววิถีประสบการณ์สัมผัสมุมมองใหม่ (Pattani Experience) จึงได้จัดงาน เทศกาลอาหาร  ฉ่ำ ฟู้ดติวัล – Charm Foodtival 2025”  โดยเน้นให้มีการสร้างงาน                       สร้างอาชีพ โดยการบูรณาการหน่วยงานและการมีส่วนร่วมของ  ภาคประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น    ทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจฐานราก ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพ การสร้างรายได้สู่ชุมชน การจัดงานในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากเราได้เห็นนักท่องเที่ยวมากมายที่มาร่วมงานทั้งนักท่องเที่ยวจาก                      สามจังหวัดชายแดนเอง รวมถึงนักท่องเที่ยจากมาเลเซีย ซึ่งตอนนี้เราก็ยังได้เตรียมปรับปรุงภูมิทัศน์ต่าง ๆ และเตรียมจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มาชมความงามของอำเภอสายบุรีอีกด้วย”

นายณรงค์ สังข์ประสิทธิ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปัตตานี เผยต่อว่า “สำหรับการจัดงาน ฉ่ำ ฟู้ดติวัล – Charm Foodtival 2025”  ครั้งนี้เรามีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดปัตตานี โดยเฉพาะบริเวณหาดวาสุกรี ตำบลตะลุบัน อำเภอสายบุรี ให้กับนักท่องเที่ยวทั้ง 3 จังหวัดชายแดน และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียได้มาลิ้มลองเสน่ห์อาหารพื้นถิ่นที่ขึ้นชื่อโดยเราได้คัดสรรร้านค้า มาให้ลิ้มลองกันแบบจัดเต็มกว่า 100 ร้านค้า ทั้งอาหารร่วมสมัยอาหารโบราณที่หาทานยาก พร้อมด้วยกิจกรรมมากมาย อาทิ ตุ๊กตายักษ์สีสันสดใส การโชว์บอลลูนหลากสี กล่องสุ่มหรรษา กิจกรรมสาธิตทำอาหาร โดย Chef Table การแข่งขันขี่ม้า การแข่งขันยิงธนูเทรดดี้ กิจกรรมหนูน้อยขาไถชายแดนใต้ และกิจกรรมอื่นๆ เพื่อประชาสัมพันธ์อำเภอสายบุรีให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวมากขึ้น และคาดว่านอกจากกิจกรรมนี้ที่เป็นกิจกรรมเริ่มต้นปี ถือว่าเป็นที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และเป็นไปตามเป้าวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ซึ่งคาดว่าในการจัดงานครั้งต่อ ๆ ไปจะได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวรวมถึงคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มาทำกิจกรรมร่วมกัน เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น“


ด้าน นายนิติ นิเดหะ นายกเทศมนตรีเมืองตะลุบัน กล่าวต่อว่า  “สำหรับปีนี้ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้ส่งงบประมาณมาเพื่อปรับปรุงพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า ห้องน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวก สาธารณูปโภค รวมทั้งเรื่องของการจัดกิจกรรมต่าง ๆ โดยปีนี้ที่เราทำมีเรื่องของการแข่งขันม้า เรามีม้าเข้าแข่งกว่า 170  ตัว ซึ่งเราเป็นตัวแทนของชาวปักษ์ใต้ และเรื่องของการแข่งขันเรือที่เราไมได้ทำมากว่าสิบปีแล้ว เรามีการจัดแข่งขันขาไถของเด็ก ๆที่เราต้องการพัฒนาเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมแข่งขันกว่า 150 ราย  รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งเราคาดว่าหลังจากนี้ไป อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี จะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องห้ามพลาดที่เหล่านักท่องเที่ยวจะต้องปักหมุดเพื่อมาเที่ยว”


นางนงคราญ ธรรมเพชร รองประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปัตตานี กล่าวปิดท้าย “อยากเชิญชวนทุกท่านมาเที่ยวงาน และร่วมปักหมุด ขอเชิญชวนพี่น้องชาวปัตตานี จังหวัดใกล้เคียง และชาวมาเลเซียที่เข้ามาท่องเที่ยว 3 จังหวัดชายแดน มาท่องเที่ยวที่อำเภอสายบุรี และสถานที่ต่าง ๆ ในจังหวัดปัตตานี เชื่อว่าทุกท่านจะประทับใจกับกิจกรรมต่าง ๆ ความสวยงาม และความเป็นมิตรไมตรีจิตรของชาวสายบุรี และชาวปัตตานีค่ะ”


สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารข้อมูลได้ที่ Facebook : สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปัตตานี





วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2568

พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) เรื่อง การพลิกโฉมคุณภาพการศึกษาไทยด้วยการพัฒนานวัตกรรมครูสู่นวัตกรรมผู้เรียน โครงการความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับ สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.)

 พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ความร่วมมือทางวิชาการ (MOU)  เรื่อง การพลิกโฉมคุณภาพการศึกษาไทยด้วยการพัฒนานวัตกรรมครูสู่นวัตกรรมผู้เรียน โครงการความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับ สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) 


เมื่อวันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 10.00-11.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 อาคาร พว. ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ระหว่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับ สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ประจำปีการศึกษา 2568-2570 โดยมีนางสาวสุรีวรรณ นาคาศัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ และ ดร.ศักดิ์สิน โรจน์สราญรมย์ ประธานกรรมการบริหาร สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ร่วมลงนาม การดำเนินงานตามข้อตกลงความร่วมมือนี้จะอยู่ในรูปแบบของการประสานงานความร่วมมือขององค์กรทั้งสองแห่งดังกล่าวข้างต้น โดยตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการศึกษาที่มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เมื่อวิเคราะห์ถึงด้านนโยบายด้านการศึกษาของรัฐบาล ที่จะดำเนินการปฏิรูปการศึกษาและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต อันเป็นจุดเน้นสำคัญ             ที่มุ่งส่งเสริมให้เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนตามความถนัด ส่งเสริมการอ่าน เพื่อสร้างอนาคต สร้างรายได้ กระจายอำนาจการศึกษาให้ผู้เรียนได้เข้าถึงการเรียนรู้อย่างทั่วถึง มีสื่ออุปกรณ์การเรียนที่เหมาะสมต่อผู้เรียนแต่ละวัย และใช้ระบบเทคโนโลยีการศึกษาสมัยใหม่ในการพัฒนาหลักสูตร และให้คำแนะนำ    ที่เหมาะสมกับความรู้ความสนใจของผู้เรียน ต่อยอดให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อให้มีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของโลกสมัยใหม่ 



การพัฒนาการเรียนรู้แบบ Active Learning  เป็นการดำเนินงานตามกรอบแนวทางความร่วมมือในครั้งนี้    ซึ่งสอดคล้องกับแผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) ด้านการศึกษาที่ได้กำหนดกิจกรรมปฏิรูปที่ 2 การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนสู่การเรียนรู้ฐานสมรรถนะเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 โดยการปรับเปลี่ยน   การเรียนการสอนในปัจจุบันไปสู่การเรียนรู้ ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps ภายใต้หลักสูตร      อิงมาตรฐาน (Standard-based Curriculum) ด้วยการพัฒนาคุณภาพและศักยภาพ รวมทั้งส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิชาชีพของผู้บริหาร ครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา สำหรับโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหาร   ส่วนจังหวัดชัยภูมิ ให้มีการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps มีนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูที่จะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพผู้เรียน ให้มีความถนัด มีทักษะกระบวนการและความฉลาดที่แตกต่างกัน ผู้เรียนสามารถถักทอสร้างความรู้ได้เองจนถึงระดับหลักการ เกิดสมรรถนะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทุกด้าน รวมทั้งเกิดผลลัพธ์เป็นผลผลิต เช่น ชิ้นงาน โครงงาน นวัตกรรม จนส่งผลให้ผู้เรียนทุกคนสามารถพัฒนาเป็นนวัตกรได้ตามที่ยุทธศาสตร์ชาติกำหนดไว้




วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2568

ร่วมแสดงความยินดี นายดูซอฟ ยูน รับตำแหน่งประธานสมาคมเกาหลี แห่งประเทศไทย คนที่ 34

 ร่วมแสดงความยินดี นายดูซอฟ ยูน รับตำแหน่งประธานสมาคมเกาหลี แห่งประเทศไทย คนที่ 34





นายดูซอฟ ยูน รับตำแหน่งประธานสมาคมเกาหลี แห่งประเทศไทย คนที่ 34 วันที่ 23 มกราคม 2568 โรงแรมเรดิสัน บลู สุขุมวิท ภายในงานมีนายปาร์ค ยง มิน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทยมาร่วมงาน และดร.โก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยา /ดร.ปุ๋ย นิทัศน์ /จุ๊บแจง วิมลพรรณ ชาลีจังหาร / คุณสุดจิต เจ้าของฟินาเล่ ร่วมแสดงความยินดีกับนายดูซอฟ ยูน รับตำแหน่งประธานสมาคมเกาหลี แห่งประเทศไทย คนที่ 34 






วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2568

ทูชาร์จ (Tocharge) จับมือ ฟู้ดแลนด์ ตอบโจทย์ผู้ใช้รถ EVด้วยพลังงานสะอาด

ทูชาร์จ (Tocharge) จับมือ ฟู้ดแลนด์ ตอบโจทย์
ผู้ใช้รถ EVด้วยพลังงานสะอาด

บริษัท บลูเวลเอเนอจี จำกัด ติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า EV แบบ DC Fast charge ภายใต้แบรนด์ทูชาร์จ (Tocharge) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการใช้พลังงานสะอาดเพื่อพัฒนาสังคมให้ยั่งยืน ทั้งนี้เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ให้กับผู้ที่ใช้รถ EV อย่างเต็มประสิทธิภาพ 
ล่าสุดบริษัท บลูเวลเอเนอจี จำกัด โดย นายนรเสฏฐ์ เธียรประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ ได้จับมือลงนามเซ็นสัญญา กับ 
นายอธิพล ตีระสงกรานต์ 
กรรมการผู้จัดการ 
บริษัท ฟู้ดแลนด์ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด 
เพื่อติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้าทูชาร์จ (Tocharge) ที่ ฟู้ดแลนด์ซุปเปอร์มาร์เก็ต สาขานวมินทร์ และสาขาศรีนครินทร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถ EV

ซึ่งก่อนหน้านี้ทางบริษัท ได้มีการดำเนินการติดตั้งสถานีชาร์จแล้วหลายจุด อาทิเช่น พหลโยธินซอย 8 และมีโครงการขยายอย่างต่อเนื่องในอีกหลายๆพื้นที่


อธิบดีกรมพัฒน์ฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย เยี่ยมชมการฝึก “นวดหน้า-อาหารไทย” หนุนเศรษฐกิจท่องเที่ยว

อธิบดีกรมพัฒน์ฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย เยี่ยมชมการฝึก “นวดหน้า-อาหารไทย” หนุนเศรษฐกิจท่องเที่ยว

วันที่ 24 ม.ค. 68 นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เยี่ยมชมผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรการนวดหน้าเพื่อความงาม และการประกอบอาหารไทยประยุกต์ของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 13 กรุงเทพมหานคร ณ วิทยาลัยการแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน 
นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า วันนี้ผมได้มาเยี่ยมชมและพบปะผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรการนวดหน้าเพื่อความงาม และการประกอบอาหารไทยประยุกต์ของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 13 กรุงเทพมหานคร ภายใต้โครงการพัฒนาทักษะแรงงานรองรับนโยบาย Soft Power ประจำปีงบประมาณ 2568 ซึ่งได้ดำเนินการฝึกอบรมตั้งแต่วันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา และวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการฝึกอบรมแล้ว สำหรับ 2 หลักสูตรในวันนี้ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ทางกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้จัดเตรียมหลักสูตรไว้มากมายตามความต้องการของประชาชน และภาคภาคอุตสาหกรรม อาทิ หลักสูตรผู้ประกอบอาหารไทย, พนักงานนวดไทยเพื่อสุขภาพ, ภาษาต่างประเทศ, พนักงานต้อนรับส่วนหน้า, คนครัวบนเรือ, นักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวมสปาตะวันตก เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ต้องการพัฒนาแรงงานไทยเพื่อรองรับนโยบาย Soft power และธุรกิจภาคการท่องเที่ยวและบริการ

นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า การยกระดับทักษะแรงงานให้เป็นแรงงานคุณภาพเป็นอีกกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของไทย ช่วยให้ประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการอบรมหลักสูตรด้านนวด-สปา อาหาร รวมถึงภาษาต่างประเทศ ซึ่งเกี่ยวเนื่องและสำคัญยิ่งต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีผลิตภาพสูงที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างรายได้ให้ประเทศ ดังนั้นขอให้ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมทั้ง 2 หลักสูตร ได้นำความรู้ และเคล็ดลับดีๆ จากวิทยากรไปประยุกต์ใช้ และต่อยอดในการประกอบอาชีพของตนเองให้มากที่สุด และขอให้มั่นใจได้ว่า วุฒิบัตรที่ได้รับจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเป็นการการันตีฝีมือได้เป็นอย่างดี โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารได้ที่เพจเฟซบุ๊ก “สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 13 กรุงเทพมหานคร” หรือ เว็ปไซต์กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน www.dsd.go.th

คนดูทะลุ 2 แสน! ย้อนรอยบอลเดินสาย 9Up Arena สุดสนุก

คนดูทะลุ 2 แสน! ย้อนรอยบอลเดินสาย 9Up Arena สุดสนุก แฟนคลับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และผู้สนับสนุนหลักในเอเชียร่วมกันสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลเดิ...