ไปเยือนถิ่นปลาช่อนแม่ลา พร้อมตะลุยชิมเมนูเด็ดที่ “สิงห์บุรี” กับ “มาวิน” และ “เชฟบุช” ใน “เที่ยวฟินกินฉ่ำ” เสาร์นี้ ทางไทยรัฐทีวี

ไปเยือนถิ่นปลาช่อนแม่ลา พร้อมตะลุยชิมเมนูเด็ดที่ “สิงห์บุรี” กับ “มาวิน” และ “เชฟบุช” ใน “เที่ยวฟินกินฉ่ำ” เสาร์นี้ ทางไทยรัฐทีวี

2 พิธีกรหนุ่ม “มาวิน ทวีผล” และ “เชฟบุช เลอชาญ” พาไปเยือนสิงห์บุรี ถิ่นปลาแม่น้ำ ที่หาได้หลากหลายสายพันธุ์ และที่ดังไม่แพ้กันก็คือ ปลาช่อนแม่ลา ซึ่งหลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ปลาช่อนแม่ลาคืออะไร ทริปนี้เที่ยวฟินกินปลาแม่น้ำแบบจุกๆ ไซส์ตั้งแต่เล็กไปใหญ่ บอกเลยว่ามีปลาหลายชนิดทึ่เราอาจจะได้ยินและกินที่นี่เป็นครั้งแรก

 

เปิดร้านแรก 2 หนุ่มขอเริ่มที่เมนูถิ่นอย่างปลาแม่น้ำ กับเจ้าตำนานร้านอาหารที่มีปลาสารพัด “ซ้งปลาแม่น้ำ” ร้านที่เจ้าของลงจับปลาเองตั้งแต่สมัยคุญพ่อต่อมาถึงรุ่นลูก และรับซื้อปลาจากชาวบ้าน เมื่อได้ปลาแต่ละอย่างก็นำมาเข้าครัวทำเมนูต่างๆ ขายสไตล์ลูกทุ่งมีปลาแปลกๆ อาทิ ปลาเบี้ยว ปลาหมู และเมนูแปลกๆ ที่หากินได้เฉพาะที่ร้านนี้  ไปต่อกันที่ “ร้านข้าวแกงแม่สังเวียน” ร้านข้าวแกงบ้านๆ ให้เยอะ ราคาถูก ร้านเก่าแก่เมืองสิงห์ฯ ขวัญใจคนถิ่นลูกเล็กเด็กแดง เป็นเหมือนโรงอาหารของเด็กๆ ที่ต้องแวะมากินก่อนไปโรงเรียน สานฝันคนชอบลูกชิ้นปลากราย ตามรอยไปพิสูจน์ความอร่อยจากรายการ “ตะลอนกิน” แวะไปที่ “ร้านอาทิตย์โภชนา” ร้านอาหารตามสั่งร้านเก่าแก่ กับเมนูลูกชิ้นปลากรายหลากหลาย เนื้อปลากรายนุ่มเด้งไม่คาวไม่แป้ง 

 

กินอิ่มกันแล้ว 2 หนุ่มก็แวะไปเที่ยว อนุสาวรีย์วีรชนบางระจัน รำลึกถึงบรรพชน และไปหาบน้ำเสริมบุญไหว้พระที่วัดโพธิ์เก้าต้น ค่ายบางระจันก่อนไปลุยกันต่อ เพราะไปถึงถิ่นปลาช่อนแม่ลา ต้องไม่พลาดการลงจับปลาของ 2 หนุ่ม เพื่อนำมาทำเมนูเด็ดๆ ให้ลองชิม ต้มกะทิปลาช่อนแดดเดียว แต่ว่าปลาช่อนแม่ลา จริงๆ แล้ว คือปลาช่อนอะไร? พบคำเฉลยใน “เที่ยวฟินกินฉ่ำ” วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคมนี้ เวลา 15.15 น. กับทริปสิงห์บุรี

 

#เที่ยวฟินกินฉ่ำ #กินฉ่ำๆกับมาวินเที่ยวฟินๆกับเชฟบุช #มาวินฟินเวอร์ #เชฟบุชเบบี๋ #ไทยรัฐทีวีช่อง32

คลินิกทันตกรรมบ้านสวน ทำฟันในบรรยากาศร่มรื่น ด้วยราคาที่เข้าถึงได้

 คลินิกทันตกรรมบ้านสวน ทำฟันในบรรยากาศร่มรื่น ด้วยราคาที่เข้าถึงได้

ค่าใช้จ่ายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลายคนลังเลหรือปฏิเสธการรักษาปัญหาสุขภาพช่องปาก บางคนเลือกที่จะทนเจ็บ หรือทานแค่ยาแก้ปวดเพื่อให้อาการดีขึ้น แต่หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี อาการอาจลุกลามและนำไปสู่อันตรายที่ร้ายแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว “คลินิกทันตกรรมบ้านสวน” คลินิกทันตกรรมครบวงจรเพื่อคนระนองและภาคใต้ตอนบน จึงถูกก่อตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจที่อยากให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใคร จะรวยหรือจน ก็สามารถเข้าถึงการรักษาทันตกรรมที่ดีมีคุณภาพ ในราคาที่สมเหตุสมผลได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปถึงกรุงเทพฯ เพราะที่นี่รวมทั้งคุณภาพ ความเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ไว้ครบในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้จริง

นำทีมโดย คุณหมอนล นิลวิเชียร ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดฟันและรากเทียม ที่คร่ำหวอดในวงการทันตกรรมมาอย่างยาวนาน พร้อมประสบการณ์การรักษามากกว่า 5,000 เคส ไม่ว่าจะฟันผุ ฟันห่าง ฟันซ้อนเก ฟันหลุด ฟันแตก ฟันหัก หรือเคสซับซ้อนที่ต้องอาศัยความละเอียดและความแม่นยำเป็นพิเศษ คุณหมอก็สามารถรักษาได้หมด พร้อมให้การดูแลอย่างเต็มที่ในทุกขั้นตอนของการรักษา เพื่อให้คนไข้กลับมายิ้มได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง จนทำให้ชื่อของ “หมอนล” กลายเป็นชื่อแรกที่ทุกคนนึกถึงเมื่อต้องการทำฟัน

แม้ว่าค่าบริการจะย่อมเยา แต่คุณภาพและมาตรฐานการรักษาของคลินิกทันตกรรมบ้านสวนถือว่าอยู่ในระดับแถวหน้า ครบครันด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมายที่นำมาใช้เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เช่น เครื่อง X-ray แบบ CT scan ที่ช่วยให้วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ หรือเครื่องสแกนฟันและโปรแกรมประมวลผล 3 มิติ ที่ช่วยให้คนไข้เห็นภาพจำลองผลลัพธ์ก่อนเริ่มการรักษาจริง
ความละเอียดใส่ใจในทุกมิติของคลินิกยังครอบคลุมไปถึงการเลือกทีมทันตแพทย์ บุคลากร มาตรฐานการให้บริการ ความสะอาด ปลอดภัย รวมถึงผลลัพธ์ในการรักษา และความพึงพอใจของคนไข้ที่ทุกอย่างต้องดีที่สุด เพราะเป้าหมายของคลินิกไม่ได้อยู่ที่การแสวงหากำไรสูงสุด แต่เน้นการให้บริการที่มีคุณภาพ เพื่อดูแลสุขภาพช่องปากของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง

อีกหนึ่งจุดเด่นของคลินิกทันตกรรมบ้านสวนที่ทำให้หลายคนประทับใจคือ บรรยากาศอันร่มรื่นของคลินิกที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี จนบางคนเดินเข้ามาเพราะคิดว่าเป็นร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือรีสอร์ต แต่แท้จริงแล้วทั้งหมดนี้เกิดจากความตั้งใจของคุณหมอนล ที่ร่วมออกแบบกับคุณพ่อซึ่งเป็นทั้งสถาปนิกและคนรักต้นไม้ เพื่อเปลี่ยนภาพจำเดิมๆ ของคลินิกทันตกรรมให้กลายเป็นสถานที่อบอุ่น ผ่อนคลาย โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ทำให้คนไข้รู้สึกสบายใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามา ช่วยลดความกังวลให้กับคนไข้ โดยเฉพาะคนที่กลัวการทำฟันได้เป็นอย่างดี และยังมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเล่นระหว่างรอทำฟันด้วย
ความเชื่อมั่นจากผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันคลินิกทันตกรรมบ้านสวนเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ขยายบริการครอบคลุมกว่า 7 สาขา ได้แก่ สาขาระนอง, สาขากะเปอร์, สาขาหงาว, สาขากระบุรี, สาขาสะพานปลา, สาขาตลาดภูมิชนก รวมถึงสาขาพะโต๊ะ ในจังหวัดชุมพร และกลายเป็นศูนย์ทันตกรรมชั้นนำที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในภูมิภาค ทั้งในด้านคุณภาพการรักษาและมาตรฐานการบริการ ใครที่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก หรือต้องการคำแนะนำเรื่องการรักษา สามารถเข้ามาพูดคุย ปรึกษาคลินิกทันตกรรมบ้านสวนได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://dentalatgarden.com/ และ Facebook : https://www.facebook.com/dentalatgarden

“แซ่บอีสาน ตำนานร้อยเอ็ด” อร่อยนัวแบบต้นตำรับ เหมือนยกอีสานมาไว้กลางกรุง

 “แซ่บอีสาน ตำนานร้อยเอ็ด” อร่อยนัวแบบต้นตำรับ เหมือนยกอีสานมาไว้กลางกรุง

แม้อาหารอีสานจะหาทานได้ไม่ยากในกรุงเทพฯ แต่รสชาติอีสานแท้ ๆ ที่มีความแซ่บ นัว ถึงเครื่องแบบดั้งเดิมนั้นหาได้ยากเหลือเกิน สำหรับใครที่โหยหารสชาติบ้านเกิด หรืออยากสัมผัสเสน่ห์ของอาหารพื้นถิ่นอีสานที่แท้จริง ขอแนะนำ “แซ่บอีสาน ตำนานร้อยเอ็ด” ร้านอาหารอีสานสไตล์ฟิวชั่นพื้นถิ่นที่สุดฮอตที่สุดในสายไหมเวลานี้ นอกจากบรรยากาศดีน่านั่ง ยังมีทั้งเมนูให้เลือกทานมากมาย ทั้งเมนูต้นตำรับฉบับอีสานแท้ๆ และเมนูฟิวชั่น ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ ลาบ ต้ม แกง หม้อไฟ จะมาคนเดียว มาเป็นคู่ หรือยกขบวนมาเป็นแก๊ง ก็ตอบโจทย์ได้ทุกเพศทุกวัย
บรรยากาศของร้าน แซ่บอีสาน ตำนานร้อยเอ็ด ตกแต่งอย่างมีสไตล์ในแนวอีสานร่วมสมัย โดยเน้นการใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้ไผ่เป็นหลัก ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่น ผ่อนคลาย พร้อมถ่ายทอดกลิ่นอายความเป็นอีสานผ่านองค์ประกอบต่างๆ เช่น โคมไฟที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสุ่มดักปลา ซึ่งเป็นเครื่องจักสานภูมิปัญญาชาวบ้าน และโหวดสีทองขนาดใหญ่ เครื่องดนตรีประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ตั้งโดดเด่นอยู่กลางร้าน
พื้นที่นั่งมีให้เลือกหลากหลายตามความชอบ ทั้งโซนห้องแอร์เย็นสบาย โซนระเบียงใต้หลังคา และโซนเปิดโล่งสำหรับคนที่อยากนั่งชิลรับลมเย็นๆ นอกจากนี้ยังมีสนามให้เด็กๆ ได้มาวิ่งเล่น ระหว่างรออาหารด้วย
เมนูของทางร้านมีให้เลือกมากกว่า 200 รายการ ไม่ว่าจะเป็นเมนูยอดฮิตอย่าง ตำปูปลาร้า ตำโคราช ตำหลวงพระบาง ซุปหน่อไม้ร้อนๆ แหนมซี่โครงหมูทอด ลาบเป็ด ลาบปลาตะเพียน ยำกุ้งสด จิ้มจุ่มที่มีให้เลือกทั้งหมู เนื้อ ปลา และทะเลรวม ไปจนถึงเมนูอาหารไทยที่ทานง่าย เช่น ปลากะพงทอดน้ำปลาที่เสิร์ฟมาพร้อมน้ำยำแซ่บๆ หรือจะเป็นเมนูไม่เผ็ดสำหรับเด็กก็มีเช่นกัน

ทุกเมนูผ่านการคัดสรรและปรุงอย่างพิถีพิถัน ด้วยวัตถุดิบสดใหม่ในทุกวัน ผสานกับเครื่องปรุงคุณภาพสูง และปลาร้าที่เป็นสูตรเฉพาะทางร้าน รสชาติที่ได้จึงไม่ใช่แค่ความเผ็ด หรือจัดจ้านตามแบบฉบับอาหารอีสานเท่านั้น แต่ยังมีความหอมนัว กลมกล่อม ชวนให้นึกถึงรสชาติที่คุ้นเคยจากบ้านเกิด ที่สำคัญคือราคาไม่แพง เฉลี่ยจานละ 80 – 200 บาทเท่านั้น ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความอร่อยนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ คุณภา – ภาวิณี ตติยขจรเลิศ เจ้าของร้านคนสวยที่นอกจากจะโด่งดังในฐานะเน็ตไอดอล จนมีผู้ติดตามมากกว่า 2 ล้านคน เธอยังจบการศึกษาด้านคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อีกด้วย “ไม่ใช่แค่ให้อิ่มหรือเผ็ดแซ่บเท่านั้น แต่อยากให้ทุกคนได้สัมผัสความรู้สึกของความเป็นอีสาน แล้วมีรอยยิ้มและความสุขอิ่มเอมกลับบ้าน” คุณภาวิณีบอกเล่าถึงที่มาของร้านว่า เธอมีความชื่นชอบรสชาติอาหารอีสานแท้ ๆ เป็นทุนเดิม และเมื่อมีโอกาสได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่จังหวัดร้อยเอ็ด จึงร่วมมือกับหุ้นส่วนที่เป็นชาวร้อยเอ็ด นำความอร่อยแบบต้นตำรับมาเสิร์ฟให้ทุกคนได้ลิ้มลองกัน โดยเน้นรสชาติที่อร่อย เข้าถึงง่าย พร้อมแฝงไปด้วยเสน่ห์และวัฒนธรรมของภาคอีสาน ทำให้ลูกค้าติดใจและกลับมาอุดหนุนกันอย่างต่อเนื่องจนแน่นร้านทุกวัน
ใครอยากมาตามรอยความอร่อยแบบนี้ แวะมาได้เลยที่ร้าน “แซ่บอีสาน ตำนานร้อยเอ็ด” ตั้งอยู่ที่สายไหมซอย 3 มีอาหารอร่อยๆ เครื่องดื่มเย็นๆ และดนตรีสดให้ฟังทุกคืน ที่จอดรถสะดวกสบาย เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00 – 24.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line : @zt101 และ Facebook www.facebook.com/Zapisan

ชมความสนุก GoGoal Tournament บอลเดินสายสุดมันส์

ชมความสนุก GoGoal Tournament บอลเดินสายสุดมันส์ 

แฟนคลับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ร่วมสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลเดินสายชิงเงินแสน GoGoal Tournament 

แฟนคลับ ‘สาลิกาดง’ ในไทยได้ร่วมกันส่งเสริมวงการฟุตบอลเดินสายในประเทศไทยด้วยการสนับสนุนฟุตบอลรากหญ้าในไทยตามแนวคิด ‘Play with FUN, be FUN’ ด้วยการจัดบอลฟุตบอลเดินสายอย่างรายการ GoGoal Tournament โดยมีเหล่าแฟนๆ มาร่วมเชียร์กันอย่างสนุกสนาน เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ สนามฟุตบอล Super Star Arena ลาดพร้าว 80

โดยรายการนี้ ถือว่าเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีทีมเข้าร่วมแข่งมากถึง 48 ทีม และมีการชิงเงินรางวัลรวมกว่า 100,000 บาท พร้อมจัดการถ่ายทอดสดผ่านสื่อออนไลน์ไปทั่วประเทศ ก่อนที่ผลการแข่งขันจะจบลงด้วยทีม ‘หอมชาบู แปดริ้ว’ ได้รับตำแหน่งชนะเลิศพร้อมรับเงินรางวัลกลับบ้านเพียบ

แฟน ๆ สามารถติดตามรายละเอียดการแข่งขันครั้งต่อ ๆ เพื่อร่วมสนุกและลุ้นรับรางวัลได้ที่ LINE ID: @LiveYourDream หรือแอด https://lin.ee/dOtUKg5

"ครัวคุณต๋อยยกทัพ“ บุก! เซ็นทรัล หาดใหญ่

"ครัวคุณต๋อยยกทัพ“ บุก! เซ็นทรัล หาดใหญ่

มาลิ้มรสความหรอยแรง อิ่มเอมบรรยากาศสุดประทับใจกันที่งาน “ครัวคุณต๋อยยกทัพ” สายกินถิ่นใต้เตรียมมารีวิว กินฉ่ำให้หนำใจ กับตัวจริงมืออาชีพฝีมือขั้นเทพตลอด 11 วันเต็ม วันที่ 29 พฤษภาคม – 8 มิถุนายน 2568  ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 เซ็นทรัล หาดใหญ่

“คุณตูน-พัทธยศ ลิมปพัทธ์” ในฐานะผู้จัดงาน เอาความพิเศษที่คัดสรรมาเพื่อท่าน พบกับ 70 ร้านเด็ดทั่วไทย พิถีพิถันใส่ใจทุกขั้นตอน ปรุงสดใหม่ทุกวัน การันตีความอร่อยจากทีมงานครัวคุณต๋อย อาทิเช่น ก๋วยเตี๋ยวแห้งกะเทยเจ๊แมน / เจ็กใหม่ชาภูเก็ต / ไส้อั่ว อุไรรัตน์ เชียงใหม่ / หมูกระด้ง เบคอนทอดน้ำปลา / แตงไทยน้ำผึ้งป่า / ลูกชิ้นปลาสองพี่น้อง / เจ๊นิดปูม้าแกะสุราษฎร์ / ไก่ย่างจีระพันธ์ /

หอยจ๊อปูแม่วรรณา / กระเพาะปลาเยาวราช by คุณทราย

ฟิ๊นฟินกับเมนูหลากหลายสไตล์ทั้งอาหารไทย นานาชาติ ยอดฮิตติดกระแส รสชาติถูกปาก คุณภาพถูกใจ กินได้ทุกวัยมารวมไว้ที่งานนี้ 

ไฮไลท์สุดพิเศษ "ครัวคุณต๋อย Selected" คัดสรร 6 ร้านมือโปรพร้อมเสิร์ฟความหรอยจังฮู้ ซื้อกินถูกปาก ซื้อฝากถูกใจ ได้แก่ F&F เฟรนฟรายยาว สไตล์ญี่ปุ่น / Domi Corn บ้านข้าวโพด / บางกอกลาซานญ่า / ข้าวขาหมูอาโป / ล้านแปดแดดเดียว / เอี๊ยงอ้าเป็ดย่าง

โดยในวันเปิดงานวันแรกคุณจะได้พบ

กับ 3 พิธีกรชื่อดังจาก รายการครัวคุณต๋อย นำโดย “อาต๋อย-ไตรภพ ลิมปพัทธ์” “คุณเอ๊าะ-กีรติ เทพธัญญ์” “คุณโก๊ะตี๋ อารามบอย”“คุณนก-สุภัทรพร นามปิติ” ผู้จะพาท่านดื่มด่ำกับเรื่องราวความอร่อยทั้งงาน และร่วมถ่ายรูปกับผู้บริหารของเซ็นทรัลหาดใหญ่

พร้อมด้วย “คุณก่อเกียรติ ลิมปพัทธ์” ผู้อำนวยการฝ่ายผลิต โดยภายในงานมีกิจกรรมร่วมสนุกอีกมากมาย

ตื่นตาตื่นใจกับกิจกรรม Cooking Show ที่จะมาบอกสูตรเด็ด เคล็ดลับ การทำเมนูอร่อยจากวัตถุดิบชั้นเลิศ ได้แก่เมนู แร็พไก่ย่างเนื้อทอง และ ข้าวหลามน้ำกะทิ ให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง 

ร่วมลุ้นรับของอร่อย กับกิจกรรม “ครัวคุณต๋อย อร่อยสุดคุ้ม” รับเซ็ตเมนูอร่อยสุดคุ้มในราคาเพียง 499 บ. (จากปกติราคา 1,000 บ.)

ร่วมสนุกกับกิจกรรม “ครัวคุณต๋อยอร่อยแชร์ไป” เพียงโพสต์รูปภาพในงานพร้อมติด #ครัวคุณต๋อยอร่อยแชร์ไป ตั้งโพสต์เป็นสาธารณะ ก็รับคูปองส่วนลดช้อปสินค้าในงานมูลค่า 20 บาททันที (คูปองมีจำนวนจำกัด)

พบกับ "ครัวคุณต๋อยยกทัพ“ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ในวันที่ 29 พฤษภาคม – 8 มิถุนายน 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. - 21.00 น. 

สนับสนุนความสำเร็จโดย

• ศูนย์การค้า เซ็นทรัล หาดใหญ่

• เมืองสงขลา

• การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงาน สงขลา

• รสดีเมนู ครบรส ครบเครื่องในซองเดียว

• หมูยอ วชาลิสา สูตรเวียดนาม ไม่ใส่แป้ง ต้นตำรับ 50 ปี จากรุ่นสู่รุ่น

• สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 คุ้มค่าทุกนาที ดูทีวีสีช่อง 3

#ครัวคุณต๋อยยกทัพ #ครัวคุณต๋อย #ไม่กินถือว่าผิด #เซ็นทรัลหาดใหญ่ #CentralHatyai

ติดตามรายละเอียดได้ที่ FACEBOOK ครัวคุณต๋อย เว็บไซต์ www.kruakhuntoi.com แอปพลิเคชันครัวคุณต๋อย 

“ศุภมาส” จัดทัพกระทรวง อว. ระดมทุกหน่วยงานลุยช่วยน้ำท่วม 68 ตอบโจทย์วาระแห่งชาติ “รับมือน้ำ” ตามนโยบายรัฐบาล พัฒนาระบบ AI ครบวงจร ทั้งแอปเตือนภัยล่วงหน้า 48 ชั่วโมงในพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับตำบล ติดตั้งสถานีโทรมาตรอัตโนมัติรายงานสถานการณ์แบบเรียลไทม์ในแม่น้ำสายชายแดนไทย–เมียนมา จัดเต็มเทคโนโลยีเฝ้าระวัง-ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์-ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“ศุภมาส” จัดทัพกระทรวง อว. ระดมทุกหน่วยงานลุยช่วยน้ำท่วม 68 ตอบโจทย์วาระแห่งชาติ “รับมือน้ำ” ตามนโยบายรัฐบาล พัฒนาระบบ AI ครบวงจร ทั้งแอปเตือนภัยล่วงหน้า 48 ชั่วโมงในพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับตำบล ติดตั้งสถานีโทรมาตรอัตโนมัติรายงานสถานการณ์แบบเรียลไทม์ในแม่น้ำสายชายแดนไทย–เมียนมา จัดเต็มเทคโนโลยีเฝ้าระวัง-ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์-ฟื้นฟูหลังน้ำลด

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 น.ส. ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แถลงข่าว “อว. ขับเคลื่อนวิจัยและนวัตกรรมสู้ภัยน้ำ” ณ กระทรวง อว. โดยมี ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. และผู้บริหารกระทรวง อว. เข้าร่วม ที่ห้องแถลงข่าวชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า กระทรวง อว.

น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณฝนจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึงร้อยละ 5 และมีความเสี่ยงเกิดพายุหมุนเขตร้อน 1–2 ลูก ส่งผลให้บางพื้นที่อาจประสบภาวะน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ รัฐบาลจึงได้ยกระดับการบริหารจัดการน้ำให้เป็น “วาระแห่งชาติ” โดยมีแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาว ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ฟื้นฟูระบบนิเวศ ไปจนถึงการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการคาดการณ์และเตือนภัย โดยในส่วนของกระทรวง อว. ได้ระดมทุกหน่วยงานในสังกัดซึ่งมีความพร้อมในการรับมือสถานการณ์น้ำหลาก น้ำท่วม และภัยพิบัติทางธรรมชาติในฤดูฝนปีนี้ ด้วยการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เชิงพื้นที่ บูรณาการเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ในการบริหารจัดการน้ำและแก้ปัญหาภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการพัฒนานโยบายและมาตรการ โดยให้มหาวิทยาลัยและหน่วยงานต่าง ๆ ของกระทรวง อว. เข้าไปมีส่วนร่วมกับพื้นที่และชุมชน เพื่อขับเคลื่อนงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมในระดับพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกลไกกองทุน ววน. ผ่านหน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัย หรือ PMU โดยมี 5 หน่วยงานที่อยู่ในกระทรวง อว. ได้แก่ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) หน่วยบริหารและจัดการทุนเพื่อพัฒนาพื้นที่ (บพท.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน (บพค.) และศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS) เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยธรรมชาติอย่างครบวงจร

รมว.อว. กล่าวต่อว่า หนึ่งในโครงการสำคัญที่ได้ดำเนินการแล้วคือ การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม อว. เพื่อประชาชน โดยมีคณะทำงาน 3 ชุด รับผิดชอบครอบคลุมทุกระยะของภัย ได้แก่ การเฝ้าระวัง การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ และการฟื้นฟูหลังน้ำลด นอกจากนี้ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) ได้ร่วมกับมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ติดตั้งสถานีโทรมาตรอัตโนมัติในแม่น้ำสาย บริเวณชายแดนไทย–เมียนมา ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงด่านแม่สาย จ.เชียงราย เพื่อรายงานระดับน้ำแบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชัน “ThaiWater” ซึ่งจะช่วยเตือนภัยล่วงหน้าได้ถึง 3–4 ชั่วโมงก่อนที่มวลน้ำจะมาถึง ขณะเดียวกัน ในแอปพลิเคชั่น “ThaiWater” กระทรวง อว. ยังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ในชื่อ “พื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ” ที่สามารถแจ้งเตือนน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากล่วงหน้า 48 ชั่วโมงในระดับตำบล ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ประเทศพัฒนาแล้วใช้ในการเตรียมการรับมือ

น.ส.ศุภมาส ยังกล่าวอีกว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจในระดับพื้นที่ กระทรวง อว. ยังร่วมมือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จัดตั้ง ศูนย์ข้อมูลน้ำระดับจังหวัด โดยมีเป้าหมายขยายให้ครบ 76 จังหวัด เพื่อสนับสนุนการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัด และเสริมศักยภาพท้องถิ่นในการวางแผนและรับมือภาวะวิกฤติ พร้อมรับข้อสั่งการจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ให้ สสน. และ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบริหารจัดการข้อมูลเชิงพื้นที่ และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดในช่วงฤดูฝน โดยเน้นการสื่อสารกับประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงทีผ่าน 3 แอปพลิเคชันเตือนภัยพิบัติ ได้แก่ 1.THAI DISASTER ALERT ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2.ThaiWater ของ สสน. และ 3.เช็คน้ำ ของ GISTDA พร้อมกันนี้ ยังมีการบูรณาการกับเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การใช้โดรนเพื่อส่งอาหาร เวชภัณฑ์ และสำรวจพื้นที่ ในช่วงเกิดภัย, การพัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์และแจ้งเตือนภัยดินถล่มด้วย IoT และ AI ซึ่งจะพร้อมใช้งานในเดือนกรกฎาคม รวมถึง ผลิตภัณฑ์ยับยั้งเชื้อโรคหลังน้ำลด ที่พัฒนาโดย สวทช. เพื่อใช้ฟื้นฟูบ้านเรือนและสถานที่สาธารณะ

“เราไม่รอให้เกิดวิกฤตแล้วค่อยลงมือ แต่เราเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า โดยใช้งานวิจัยและเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้ใครต้องเผชิญภัยเพียงลำพัง นี่คือพลังของงานวิจัยและนวัตกรรมที่เป็นรูปธรรม และเกิดขึ้นจริงเพื่อประชาชน เรามีเป้าหมายร่วมกันในการลดความสูญเสีย ยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนในระยะยาว เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย เศรษฐกิจเดินหน้า และประเทศมีศักยภาพในการรับมือภัยพิบัติในอนาคตได้อย่างมั่นคง” น.ส.ศุภมาส กล่าวทิ้งท้าย

ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการนวัตกรรมเพื่อรับมือภัยน้ำ อย่างรอบด้าน ได้แก่
– ระบบเตือนภัยและแนวทางป้องกันน้ำท่วม ในเขตเมือง จังหวัดเชียงราย
– นวัตกรรมกระบวนการชุมชนในการวางแผนรับมือวิกฤตอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย
– โดรนลำเลียงสัมภาระเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติและโดรนสำรวจเพื่อสนับสนุนเมื่อเกิดภัยพิบัติ
– คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติและแอปพลิเคชัน “ThaiWater” นวัตกรรม สารสนเทศน้ำเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรและรับมือภัยพิบัติ

นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์จากนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย
– นางสาวกรรณิกา ดุรงคเดช ผู้อำนวยการภารกิจการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (วช.)
– รองศาสตราจารย์ ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ ผู้อำนวยการแผนงาน (Program Director) แผนงานเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ ววน. น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ใน 10 จังหวัด
– ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อังกูร ว่องตระกูล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
– ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จักรกฤษณ์ คณารีย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
– นายพิศิษฐ์ มิตรเกื้อกูล นายกสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ
– ดร.ศรเทพ วรรณรัตน์ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.)

วช. ภายใต้กระทรวง อว. พร้อมมุ่งมั่นส่งเสริมงานวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ พร้อมต่อยอดองค์ความรู้เพื่อการบริหารจัดการน้ำเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับอุทกภัยขับเคลื่อนวิจัยนวัตกรรมสู้ภัยน้ำอย่างยั่งยืนด้วยวิจัยและนวัตกรรม